ข้อบังคับสมาคมผู้ปกครองและครู
โรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางขุนเทียน
- Parent-Teacher Association RST Regulation -
หมวดที่ 1
หมวดทั่วไป
ข้อที่ 1 สมาคมนี้ชื่อว่าสมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางขุนเทียน ย่อ สปค. ร.ส.ท. เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า
Parent-Teacher Association Rattanakosinsomphod Bangkhunthian School ย่อว่า P.T.A.R
ข้อที่ 2 เครื่องหมายสมาคมมีลักษณะเป็นรูปตราสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี ใต้ตรามีแถบโค้งเขียนข้อความว่า “สมาคมผู้ปกครองและ
ครูโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางขุนเทียน”
รูปเครื่องหมายสมาคม / School Emblem
ข้อที่ 3 สํานักงานใหญ่ของสมาคมตั้งอยู่ ณ โรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางขุนเทียน เลขที่ 2 ถนนพระรามที่ 2 ซอย 69 แขวงแสมดํา
เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร 10150
ข้อที่ 4 วัตถุของสมาคมเพื่อ
1. เพื่อสร้างความสัมพันธที่ดี ระหว่างผู้ปกครองและครูในอันที่จะร่วมกันสนับสนุนส่งเสริมให้โรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางขุนเทียน เจริญก้าวหนายิ่งขึ้นไป
2. เพื่อส่งเสริมการศึกษาของนักเรียนในด้านการเรียนการสอน ศีลธรรมขนบธรรมเนียม ประเพณี การกีฬา ดนตรี และกิจกรรมต่าง ๆ
3. เพื่อส่งเสริมสวัสดิการและครูโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางขุนเทียน
4. เพื่อร่วมกันประกอบกิจกรรมอันเป็นสาธารณกุศล และเป็นประโยชน์แก่สังคม
5. เพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ทั้งในคําแนะนํา ด้านการศึกษาและอาชีพ ตลอดจนป้องกันแก้ไขปัญหาของนักเรียนที่ศึกษาในโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางขุนเทียน
6. ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองหรือลัทธิใด
หมวดที่ 2
สมาชิก
ข้อที่ 5 สมาชิกของสมาคม มี 2 ประเภท คือ
5.1 สมาชิกสามัญได้แก่ บิดา - มารดา หรือผู้ปกครองของผู้ที่เป็นหรือเคยเป็นนักเรียนโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางขุนเทียน
5.2 สมาชิกกิตติมศักดิ์ ได้แก่ บุคคลผู้ทรงคุณวุฒิ หรือผู้อุปการคุณแก่สมาคม ซึ่งคณะกรรมการลงมติให้เชิญเขาเป็นสมาชิกของสมาคม
ข้อที่ 6 สมาชิกจะต้องประกอบด้วยคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้
6.1 เป็นผู้บรรลุนิติภาวะแล้ว
6.2 เป็นผู้มีความประพฤติเรียบร้อย
6.3 ไม่เป็นโรคที่สังคมรังเกียจ
6.4 ไม่ต้องคําพิพากษาของศาลถึงที่สุดให้เป็นบุคคลล้มละลาย หรือไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ หรือต้องจําคุก ยกเว้นความผิดฐานประมาทหรือ ลหุโทษ การต้องคําพิพากษาของศาลถึงที่สุดในกรณีดังกล่าว จะต้องเป็นในขณะที่สมัครเข้าเป็นสมาชิกหรือในระหว่างที่เป็นสมาชิกของสมาคมเท่านั้น
6.5 เป็นหรือเคยเป็นบิดา-มารดา หรือผู้ปกครองของผู้ที่เป็นหรือเคยเป็นนักเรียนโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางขุนเทียน
6.6 นักเรียนเก่าโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางขุนเทียน
ข้อที่ 7 ค่าลงทะเบียน และค่าบํารุงสมาคม
7.1 สมาชิกสามัญ จะต้องเก็บ
- ค่าลงทะเบียน
- ค่าบํารุงสมาคมเป็นรายปี ๆ ละ 200 บาท
ข้อที่ 8 การสมัครเขาเป็นสมาชิกของสมาคม ให้ผู้ประสงค์จะสมัครเข้าเป็นสมาชิก ของสมาคมยื่นใบสมัครตามแบบของสมาคมต่อเลขานุการ โดย
มีสมาชิกสามัญรับรองอย่างน้อย 1 คน และให้เลขานุการติดประกาศรายชื่อผูสมัครไว้ ณ สํานักงานของสมาคม เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 15 วัน เพื่อให้สมาชิกอื่น ๆ
ของสมาคม (ถ้ามี) เสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการเพื่อพิจารณาอนุมัติว่า จะรับหรือไม่รับเข้าเป็นสมาชิกของสมาคม และเมื่อคณะกรรมการพิจารณาการสมัคร
แล้วเป็นผลประการใด ให้เลขานุการเป็นผู้แจ้งให้ผู้สมัครทราบโดยเร็ว ครูปัจจุบันของโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางขุนเทียน มีสิทธิ์เป็นสมาชิกสามัญโดย
ต่ำแหน่ง ไม่ต้องเสียค่าบํารุง เว้นแต่แสดงเจตนาเป็นอย่างอื่น
ข้อที่ 9 ถ้าคณะกรรมการพิจารณาอนุมัติให้รับผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิก ก็ให้ผู้สมัครนั้นชําระเงินค่าลงทะเบียนและค่าบํารุงสมาคมให้เสร็จภายใน 30
วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากเลขานุการและสมาชิกภาพของผู้สมัคร ให้เริ่ม นับตั้งแตวันที่ผู้สมัครได้ชําระเงินค่าลงทะเบียน และค่าบํารุงสมาคมเป็นที่เรียบร้อย
แล้วแต่ถ้าผู้สมัครไม่ชําระเงินค่าลงทะเบียนและค่าบํารุงภายในกําหนด ก็ให้ถือว่าการสมัครคราวนั้นเป็นอันยกเลิก
ข้อที่ 10 สมาชิกภาพของสมาชิกกิตติมศักดิ์ให้เริ่มนับตั้งแต่วันที่หนังสือตอบรับเชิญของผู้ที่คณะกรรมการได้พิจารณาลงมติให้เชิญเข้าเป็น
สมาชิกของสมาคมได้มาถึงยังสมาคม
ข้อที่ 11 สมาชิกภาพของสมาชิกให้สิ้นสุดลงด้วยเหตุ ดังต่อไปนี้
11.1 ตาย
11.2 ลาออก โดยยื่นหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรต่อคณะกรรมการ และคณะกรรมการได้พิจารณาอนุมัติและสมาชิกผู้นั้นได้ชําระหนี้สิน
ยังติดค้างอยูกับสมาคมเป็นที่เรียบร้อย
ข้อที่ 12 สิทธิและหน้าที่ของสมาชิก
12.1 มีสิทธิ์เข้าใช้สถานที่ของสมาคมโดยเท่าเทียมกัน
12.2 มีสิทธิ์เสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับการดําเนินการของสมาคมต่อคณะกรรมการ
12.3 มีสิทธิ์ได้รับสวัสดิการต่าง ๆ ที่สมาคมได้จัดให้มีขึ้น
12.4 มีสิทธิ์เข้าร่วมประชุมใหญ่ของสมาคม
12.5 สมาชิกสามัญมีสิทธิ์ในการเลือกตั้ง หรือได้รับการเลือกตั้ง หรือแต่งตั้งเป็นกรรมการสมาคมและมีสิทธิ์ออกเสียงลงมติต่าง ๆ ในที่
ประชุมได้คนละ 1 คะแนนเสียง
12.6 มีสิทธิ์ร้องขอต่อคณะกรรมการ เพื่อตรวจสอบเอกสารและบัญชีทรัพย์สินของสมาคมและมีสิทธิ์ออกเสียงลงมติต่าง ๆ ในที่ประชุมได้
คนละ 1 คะแนนเสียง
12.7 มีสิทธิ์เข้าชื่อร่วมกันอย่างน้อย 1 ใน 3 ของสมาชิกทั้งหมด ร้องขอต่อคณะกรรมการให้จัดประชุมสามัญใหญ่
12.8 มีหน้าที่จะต้องปฏิบัติตามระเบียบปฏิบัติและข้อบังคับของสมาคมโดยเร่งรัด
12.9 มีหน้าที่ประพฤติตนให้สมกับเกียรติที่เป็นสมาชิกของสมาคม
12.10 มีหน้าที่ให้ความร่วมมือและสนับสนุนการดําเนินกิจกรรมต่าง ๆ ของสมาคม
12.11 มีหน้าที่ร่วมกิจกรรมที่สมาคมได้จัดให้มีขึ้น
12.12 มีหน้าที่ช่วยเผยแพร่ชื่อเสียงของสมาคมให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย
หมวดที่ 3
การดําเนินกิจการของสมาคม
ข้อที่ 13 ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่ง ทําหน้าที่บริหารกิจการสมาคม มีจํานวนอย่างน้อย 15 คน อย่างมากไม่เกิน 28 คน คณะกรรมการนี้ได้มาจาก
ที่ประชุมใหญ่ เลือกตั้งนายกสมาคม 1 คน จากสมาชิกที่มิได้เป็นอาจารย์โรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางขุนเทียน ให้หัวหน้าสถานศึกษาโรงเรียน
รัตนโกสินทร์สมโภชบางขุนเทียนเป็นอุปนายกคนที่ 1 และผู้ช่วยหัวหน้าสถานศึกษาโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางขุนเทียนเป็นกรรมการโดยตําแหน่ง
และให้โรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางขุนเทียนเลือกสมาชิกซึ่งเป็นอาจารย์โรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางขุนเทียนไม่เกิน 7 คน เป็นคณะกรรมการบริหาร
ให้นายกสมาคมและอุปนายกคนที่ 1 ร่วมกันพิจารณาเลือกบุคคลที่เป็นสมาชิกสามัญ ซึ่งมิได้เป็นอาจารย์โรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางขุนเทียนไมเกิน 16
คน เป็นคณะกรรมการบริหารสมาคมให้คณะกรรมการสมาคมทุกคนตามวรรคตนเลือกตั้งกันเองระหว่างคณะกรรมการสมาคม เพื่อดํารงตําแหน่งอุปนายก
คนที่ 2 และอุปนายกคนที่ 3 เลขานุการ 1 คน นายทะเบียน 1 คน ปฏิคม 1 คน ประชาสัมพันธ์ 1 คน เหรัญญิก 1 คน และตําแหน่งอื่น ๆ ตามสมควร ซึ่งตําแหน่งของ
กรรมการสมาคมมีตําแหน่งและหน้าที่โดยสังเขป ดังต่อไปนี้
13.1 นายกสมาคม ทําหน้าที่เป็นหัวหน้าในการบริหารกิจการของสมาคมเป็นผู้แทนสมาคมให้การติดต่อบุคคลภายใน และทําหน้าที่เป็นประธาน
ในการประชุมคณะกรรมการและการประชุม คณะกรรมการประชุมใหญ่ของสมาคม
13.2 อุปนายก ทําหน้าที่เป็นผู้ช่วยนายกสมาคมในการบริหารกิจการสมาคม ปฏิบัติตามหน้าแทน แทนนายกสมาคม เมื่อนายกสมาคมไม่อยู่
หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่การทําหน้าที่ แทนนายกสมาคม ให้อุปนายกตามลําดับตําแหน่งเป็นผู้กระทําการแทน
13.3 เลขานุการ ทําหน้าที่เกี่ยวกับงานธุรการของสมาคมทั้งหมด เป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ ของสมาคมในการปฏิบัติกิจการของสมาคม และ
ปฏิบัติตามคําสั่งของนายกสมาคม ตลอดจนทําหน้าที่เป็นเลขานุการในการประชุมต่าง ๆ ของสมาคม
13.4 เหรัญญิก มีหน้าที่เกี่ยวกับการเงินทั้งหมดของสมาคม เป็นผู้จัดทําบัญชีรายรับ รายจ่ายบัญชี งบดุลของสมาคมและจัดเก็บเอกสาร
หลักฐานต่าง ๆ ของสมาคมไว้เพื่อตรวจสอบ
13.5 ปฏิคม มีหน้าที่ในการต้อนรับแขกของสมาคม เป็นหัวหน้าในการจัดเตรียมสถานที่ของสมาคม และจัดเตรียมสถานที่ประชุมต่าง ๆ ของ
สมาคม
13.6 นายทะเบียน มีหน้าที่เกี่ยวกับทะเบียนสมาชิกทั้งหมดของสมาคมประสานงานกับเหรัญญิกในการเรียกเก็บค่าบํารุงสมาคมของสมาชิก
13.7 ประชาสัมพันธ์ มีหน้าที่เผยแพร่กิจกรรมและชื่อเสียงเกียรติคุณของสมาชิก ให้สมาชิกและบุคคลโดยทั่วไปให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย
13.8 กรรมการตําแหน่งอื่น ๆ ตามความเหมาะสมซึ่งคณะกรรมการเห็นสมควรกําหนดให้มีขึ้น โดยมีจํานวนเมื่อรวมกับตําแหน่งกรรมการ
ข้างต้นแล้วจะต้องไม่เกินจํานวนที่ข้อบังคับได้
13.9 เพื่อประโยชน์แก่การบริหารงาน ตามวัตถุประสงค์ของสมาคมคณะกรรมการบริหารอาจตั้งกรรมการผู้ช่วยตําแหน่งหนึ่งจากกรรมการ
ผู้ใช้ตําแหน่งใดตําแหน่งหนึ่งจากกรรมการบริหาร หรืออาจตั้งอนุกรรมการ หรือตั้งผู้ใดทําหน้าที่อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างหรืออาจตั้ง ผู้ใดผู้หนึ่งเป็น
กรรมการที่ปรึกษาก็ได้
ข้อที่ 14 คณะกรรมการของสมาคมสามารถอยู่ในตําแหน่งได้คราวละ 2 ปี และเมื่อคณะกรรมการอยู่ในตําแหน่งครบตามกําหนดวาระแล้ว แต่คณะ
กรรมการชุดใหม่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนจากทางราชการก็ให้คณะกรรมการที่ครบกําหนดวาระรักษาราชการไปพลางก่อน จนกว่าคณะกรรมการชุด
ใหม่จะได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนจากทางราชการ และเมื่อคณะกรรมการชุดใหม่ได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนจากทางราชการเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ให้ทําการส่ง
และรับมอบงานกันระหว่างคณะกรรมการชุดเก่าและคณะกรรมการชุดใหม่ให็เป็นที่เสร็จสิ้นภายใน 30 วัน นับตั้งแตวันที่คณะกรรมการชุดใหม่ได้รับอนุญาตให้
จดทะเบียนจากทางราชการ
ขอที่ 15 ตําแหน่งกรรมการสมาคม ถ้าต้องว่างลงก่อนครบกําหนดตามวาระ ก็ให้คณะกรรมการแต่งตั้งสมาชิกสมาคมสามัญคนใดคนหนึ่งที่เห็น
สมควรเข้าดํารงตําแหน่งแทนตําแหนงที่ว่างลงนั้น แตผู้ตํารงตําแหน่งแทนอยู่ในตําแหน่งได้เท่ากับวาระของผู้ที่ตนแทนเท่านั้น
ข้อที่ 16 กรรมการอาจจะพ้นตําแหน่ง ซึ่งมิใชเป็นการออกตามวาระด้วยเหตุผล ต่อไปนี้คือ
16.1 ตาย
16.2 ลาออก
16.3 ขาดจากสมาชิกภาพ
16.4 ที่ประชุมใหญ่ลงมติให้ออกจากตําแหน่ง
ข้อที่ 17 คณะกรรมการของสมาคมสามารถอยู่ในตําแหน่งได้คราวละ 2 ปี และเมื่อคณะกรรมการอยู่ในตําแหน่งคณะกรรมการและให้พ้นจาก
ตําแหน่งเมื่อคณะกรรมการมีมติให้ออก
ข้อที่ 18 อํานาจและหน้าที่ของคณะกรรมการ
18.1 มีอํานาจออกระเบียบต่างๆ เพื่อให้สมาชิกได้ปฏิบัติ โดยระเบียบปฏิบัตินั้นจะต้องไม่ขัดต่อข้อบังคับฉบับนี้
18.2 มีอํานาจแต่งตั้งและถอดถอนเจ้าหน้าที่สมาคม
18.3 มีอํานาจแต่งตั้งกรรมการที่ปรึกษา หรืออนุกรรมการได้แต่กรรมการที่ปรึกษาหรืออนุกรรมการจะสามารถอยู่ในตําแหน่งได้ไม่เกินวาระ
ของคณะกรรมการที่แต่งตั้ง
18.4 มีอํานาจเรียกประชุมใหญ่สามัญประจําปี และประชุมใหญ่วิสามัญ
18.5 มีอํานาจแต่งตั้งกรรมการในตําแหน่งอื่น ๆ ที่ยังมิได้กําหนดไว้ในข้อบังคับนี้
18.6 มีอํานาจบริหารกิจการของสมาคม เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ตลอดจนมีอํานาจอื่นตามที่ข้อบังคับได้กําหนดไว้
18.7 มีหน้าที่รับผิดชอบในกิจการทั้งหมด รวมทั้งการเงิน และทรัพย์สินทั้งหมดของสมาคม
18.8 มีหน้าที่จัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญ ตามที่สมาชิกวิสามัญ จํานวน 1 ใน 3 ของสมาชิกทั้งหมด ได้เข้าชื่อรองขอให้จัดประชุมใหญ่
วิสามัญขึ้น ซึ่งการนี้จะขอจัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญขึ้นภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือร้องขอ
18.9 มีหน้าที่จัดทําเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการเงินทรัพย์สิน และการดําเนินกิจกรรมต่าง ๆ ของสมาคมให้ถูกต้องตามหลัก
วิชาการ และสามารถตรวจดูได้เมื่อสมาชิกร้องขอ
18.10 จัดทําบันทึกการประชุมต่าง ๆ ของสมาคม เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานและจัดส่งให้สมาชิกได้รับทราบ
18.11 มีหน้าที่อื่น ๆ ตามที่ข้อบังคับได้กําหนดไว้
ข้อที่ 19 ให้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารสมาคม อย่างน้อยภาคเรียนละ 1 ครั้ง เพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับการบริหารกิจการของสมาคม
ข้อที่ 20 การประชุมคณะกรรมการ จะต้องมีกรรมการเข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่าครึ่งของกรรมการทั้งหมดจึงจะถือว่าครบองค์ประชุมคณะ
กรรมการ ถ้าข้อบังคับมิได้กําหนดไว้เป็นอยางอื่นก็ให้ถือคะแนนเสียงมากเป็นเกณฑ์ แต่ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันก็ให้ประธานในการประชุมเป็นผู้ชี้ขาด
ข้อที่ 21 ในการประชุมคณะกรรมการ ถ้านายกสมาคมและอุปนายกสมาคมไม่อยู่ในที่ประชุมหรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ก็ให้กรรมการที่เข้า
ประชุมในคราวนั้นเลือกตั้งกันเอง เพื่อให้กรรมการคนใดคนหนึ่งทําหน้าที่เป็นประธานในการประชุมคราวนั้น
ข้อที่ 22 การประชุมใหญ่ของสมาคม มี 2 ประเภท คือ
22.1 ประชุมใหญ่สามัญ
22.2 ประชุมใหญ่วิสามัญ
ข้อที่ 23 คณะกรรมการจะต้องจัดให้มีการประชุมใหญ่สามัญประจําปี ๆ ละ 1 ครั้ง ภายในเดือนกรกฎาคม ของทุก ๆ ปี ตามวัน เวลา และสถานที่
ซึ่งคณะกรรมการบริหารสมาคม เป็นผู้กําหนดองค์ประชุมใหญ่สามัญ ต้องมีสมาชิกไม่น้อยกว่า 50 คน
ข้อที่ 24 การประชุมใหญ่วิสามัญ อาจมีขึ้นก็ได้โดยเหตุที่คณะกรรมการเห็นควรจัดให้มีขึ้นหรือเกิดขึ้นด้วยการเข้าชื่อรวมกันของสมาชิกไม่น้อย
กว่า 1 ใน 3 ของสมาชิกสามัญทั้งหมดร้องขอต่อคณะกรรมการจัดให้มีขึ้น
ข้อที่ 25 การแจ้งกําหนดนัดประชุมใหญ่ให้เลขานุการเป็นผู้แจ้งกําหนดนัดประชุมใหญ่ให้สมาชิกได้ทราบและการแจ้งจะต้องเป็นลายลักษณอักษร
โดยระบุ วัน เวลา และสถานที่ให้ชัดเจน โดยจะต้องแจ้งให้สมาชิกได้ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วัน และประกาศแจ้งกําหนดนัดประชุมไว้ ณ สํานักงานของ
สมาคมเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 7 วัน ก่อนถึงกําหนดการประชุมใหญ่
ข้อที่ 26 ประชุมใหญ่สามัญประจําปี จะต้องมีวาระการประชุมอย่างน้อยดังต่อไปนี้
26.1 แถลงกิจการที่ผ่านมาในรอบปี
26.2 แถลงบัญชีรายรับ รายจ่าย และบัญชีงบดุลของปีที่ผ่านมาให้สมาชิกรับทราบ
26.3 เลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ เมื่อครบกําหนดวาระ
26.4 เลือกตั้งผู้สอบบัญชี
26.5 เรื่องอื่น ๆ ถ้ามี
ข้อที่ 27 การลงมติต่าง ๆ ในที่ประชุมใหญ่ ถ้าข้อบังคับได้กําหนดไว้เป็นอย่างอื่น ก็ให้ถือคะแนนเสียงข้างมากเป็นเกณฑ์ แต่ถ้าคะแนนเสียงที่ลงมติ
มีคะแนนเสียงเท่ากัน ก็ให้ประธานในการประชุมเป็นผู้ชี้ขาด
ข้อที่ 28 ในการประชุมใหญ่ของสมาคม ถ้านายกสมาคมและอุปนายกสมาคมไม่มาร่วมประชุมหรือไม่สามารถจะปฏิบัติหน้าที่ได้ ก็ให้ที่ประชุมใหญ่
ทําการเลือกตั้งกรรมการที่มาร่วมประชุมคนใดคนหนึ่งให้ทําหน้าที่เป็นประธานในการประชุมคราวนั้น
หมวดที่ 4
การเงินและทรัพย์สิน
ข้อที่ 29 การเงินการทรัพย์สินทั้งหมดให้อยู่ในความรับผิดชอบของคณะกรรมการเงินสดของสมาคมถ้ามีให้นําฝากไว้ธนาคารทหารไทย
สาขาสี่แยกถนนบางขุนเทียน - ถนนพระราม ที่ ๒
ข้อที่ 30 การลงนามในตั๋วเงินหรือเช็คของสมาคม จะต้องมีลายมือชื่อของนายกสมาคม หรือผู้ทําการแทนลงนามร่วมกับเหรัญญิก หรือ
เลขานุการ พร้อมกับประทับตราของสมาคมซึ่งจะถือว่าใช้ได้
ข้อที่ 31 ให้นายกสมาคมมีอํานาจสั่งจายเงินสมาคมได้ครั้งละไม่เกิน 20,000 บาท (สองหมื่นบาทถ้วน) ถ้าเกินกว่านั้นจะต้องได้รับอนุมัติจาก
คณะกรรมการ และคณะกรรมการจะอนุมัติให้จ่ายเงินได้ครั้งละไม่เกิน 100,000 (หนึ่งแสนบาทถ้วน) เพราะถเาจําเป็นจําเป็นต้องจ่ายเกินกว่านี้ ต้องได้รับอนุมัติ
จากที่ประชุมใหญ่ของสมาคม
ข้อที่ 32 ให้เหรัญญิกมีอํานาจเก็บรักษาเงินสดของสมาคมได้ไม่เกิน 10,000 (หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) ถ้าเกินกว่านี้จะต้องนําฝากธนาคารในบัญชีของ
สมาคมทันที่ที่โอกาสอํานวยให้
ข้อที่ 33 เหรัญญิกจะต้องทําบัญชี รายรับ รายจ่าย และบัญชีงบดุล ให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ การรับหรือการจ่ายเงินทุกครั้ง จะต้องมีหลักฐาน
เป็นหนังสือ ลงลายมือชื่อของนายกสมาคม หรือผู้ทําการแทนร่วมกับเหรัญญิกหรือผู้ทําการแทนพร้อมกับประทับตราของสมาคมทุกครั้ง
ข้อที่ 34 ผู้สอบบัญชี จะต้องมิใช้กรรมการหรือเจ้าหน้าที่ของสมาคม และจะต้องเป็นผู้สอบบัญชีที่ได้รับอนุญาต
ข้อที่ 35 ผู้สอบบัญชี มีอํานาจหน้าที่เรียกเอกสารเกี่ยวกับการเงินและทรัพย์สินจากคณะกรรมการและสามารถจะเชิญกรรมการ หรือเจ้าหน้าที่
ของสมาคมเพื่อสอบถามเกี่ยวกับบัญชีและทรัพย์สินของสมาคมได้
ข้อที่ 36 คณะกรรมการจะต้องให้ความร่วมมือกับผู้สอบบัญชี เมื่อได้รับการร้องขอ
หมวดที่ 5
การเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อบังคับและการเลิกสมาคม
ข้อที่ 37 ข้อบังคับของสมาคม จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้โดยมติของที่ประชุมใหญ่เท่านั้น และองค์ประชุมใหญ่จะต้องมีสมาชิกสามัญเข้าร่วมประชุม
ไม่น้อยกว่าครึ่ง ของสมาชิกสามัญทั้งหมด มติของที่ประชุมใหญ่
ข้อที่ 38 การเลิกสมาคมจะเลิกได้ก็โดยมติของที่ประชุมใหญ่ของสมาคม ยกเว้นเป็นการเลิกเพราะเหตุของกฎหมายมติของที่ประชุมใหญ่ที่ให้เลิก
สมาคมจะต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของสมาชิกที่เข้าประชุมทั้งหมดและองค์ประชุมใหญ่จะต้องไม่น้อยกว่าครึ่งของสมาชิกสามัญทั้งหมด
ข้อที่ 39 เมื่อสมาคมจะต้องเลิกไม่ว่าด้วยสาเหตุใด ๆ ก็ตาม ทรัพย์สินของสมาคมที่เหลือหลังจากที่ได้ชําระบัญชีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้ตกเป็น
ของกรมสามัญศึกษากระทรวงศึกษาธิการ เพื่อใช้ประโยชน์สําหรับโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางขุนเทียน