1. โรงเรียนเป็นเขตปลอดบุหรี่และปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามกฎหมาย ห้ามไม่ให้มีการสูบบุหรี่ และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในบริเวณโรงเรียน โดยเด็ดขาด ทั้งในและนอกเวลาราชการ รวมถึงการเข้ามาใช้สถานที่ของบุคคลภายในการจัดกิจกรรมหรือ จัดงานตามประเพณี
2. โรงเรียนสนับสนุนการสร้างบรรยากาศและจัดสภาพแวดล้อมที่ปลอดบุหรี่และปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
3. โรงเรียนสนับสนุนให้บุคลากรเป็นแบบอย่างที่ดีในการไม่สูบบุหรี่ และไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หากยังเลิกไม่ได้ จะต้องไม่สูบบุหี่ ดื่มแอลกอฮอล์ในบริเวณโรงเรียน หรือไม่สูบบุหรี่ และไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อหน้านักเรียน หรือไม่สูบบุหรี่ และไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในขระที่แต่งเครื่องแบบราชการ
4. โรงเรียนสนับสนุนนให้มีมาตรการห้องกันผู้สูบบุหรี่ และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รายใหม่
5. โรงเรียนสนับสนุนการพิจารณารับพนักงาน หรือลูกจ้าง หรือผู้ประกอบการร้านค้าที่ไม่สูบบุหรี่ และไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาทำงานในโรงเรียนเป็นอันดับแรก
6. โรงเรียนสนับสนุนให้มีกระบวนการช่วยเหลือนักเรียนที่ยังไม่เลิกสูบบุหรี่ และเลิกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้ โดยการแสดงตัวว่าเป็นผู้สูบบุหรี่ หรือผู้ดื่มแอลกอฮอล์ไม่ถือเป็นความผิด แต่หากพบมีการสูบบุหรี่ หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในบริเวณโรงเรียนจะต้องได้รับโทษตามระเบียบของโรงเรียน
7. โรงเรียนสนับสนุนการสร้างความร่วมมือกับผู้ปกครอง นักเรียนและชุมชนรอบโรงเรียน ในการสร้างค่านิยมไม่สูบบุหรี่ และไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
8. โรงเรียนจะดำเนินการตามกำหมายสำหรับนักเรียนที่สูบบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตามมาตรการในการดำเนินการเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหานักเรียนที่สูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ดังนี้
8.1 นักเรียนที่ถูกพบว่าสูบบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในโรงเรียนครั้งแรก จะเชิญผู้ปกครองมารับทราบพฤติกรรม ตักเตือน และลงบันทึกประวัติไว้
8.2 ถ้านักเรียนคนเดิมถูกพบว่าทำพฤติกรรมเดิมซ้ำเป็นครั้งที่ 2 เป็นต้นไป โรงเรียนจะปฏิบัติตามกฎหมาย ดังนี้
- พระราชบัญญัติคุมครองสุขภาพของผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ. 2560 โดยนักเรียนจะต้องถูกจับและเปรียบเทียบปรับเงินเป็นครั้งละไม่เกิน 5,000 บาท
- พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 โดยนักเรียนจะต้องถูกจับและเปรียบเทียบปรับเงินเป็นครั้งละไม่เกิน 10,000 บาท ซึ่งในส่วนนี้ผู้ปกครองจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อไป
- พระราชบัญัติ ศุลากากร พ.ศ. 2560 และประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557 โดยนักเรียนจะต้องถุกจับ และเปรียบเทียบปรับเป็นเงินครั้งละไม่เกิน 10,000 บาท ส่วนบุหรี่ไฟฟ้าจะถูกยึดและทำลายทิ้งทันที
8.3 ผู้ปกครองจะต้องรับผิดชอบพานักเรียนที่สูบบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปรับการบำบัดจนสามารถเลิกได้
นางมนัสดากาณฑ์ รักษ์พงศ์สถิต
ผู้อำนวยการโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางขุนเทียน